วันที่&nbsp;21&nbsp;สิงหาคม&nbsp;2566 –&nbsp;นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย และนางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ ระหว่าง กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Population Fund&nbsp;หรือ&nbsp;UNFPA)&nbsp;และ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency&nbsp;หรือ&nbsp;TICA)&nbsp;โดยมี นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ

นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ดำเนินแผนงานความร่วมมือ (Country Programme)&nbsp;ฉบับที่&nbsp;12&nbsp;โดยร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหลายภาคส่วนในประเทศไทยเพื่อบรรลุผลภารกิจทั้งสามด้านของ&nbsp;UNFPA (Three Transformative Results)&nbsp;ได้แก่ การส่งเสริมให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการการวางแผนครอบครัว การยุติการเสียชีวิตของมารดาจากสาเหตุที่ป้องกันได้และการยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศและการกระทำที่เป็นอันตรายในรูปแบบต่างๆ ต่อผู้หญิง วัยรุ่นหญิง และประชากรทุกกลุ่ม โดยภารกิจเหล่านี้คือหนทางสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)&nbsp;ภายใน พ.ศ.2573

นางสาวสิริลักษณ์ กล่าวต่อว่า เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุภารกิจ ดังกล่าว&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ร่วมทำงานกับกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency&nbsp;หรือ&nbsp;TICA)&nbsp;อย่างต่อเนื่องยาวนาน ผ่านความร่วมมือ&nbsp;South-South and Triangular Cooperation (SSTC)&nbsp;หรือความร่วมมือแบบใต้-ใต้ และ แบบไตรภาคี และได้พัฒนามาสู่กรอบการทำงานเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมเพื่อสร้างความยั่งยืนในการบรรลุทั้ง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)&nbsp;และ&nbsp;Three Transformative Results (3TFRs)&nbsp;ซึ่งเป็นภารกิจของ&nbsp;UNFPA&nbsp;ภายใต้แผนงานประเทศ พ.ศ.2565-2569&nbsp;ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือระหว่าง&nbsp;UNFPA&nbsp;และประเทศไทย รวมทั้งกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (United Nations Sustainable Development Cooperation Framework)&nbsp;พ.ศ.&nbsp;2565-2569

“แผนงานของ&nbsp;UNFPA&nbsp;นั้น ได้รับการพัฒนาร่วมกับรัฐบาลไทย กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ องค์กรภาคประชาสังคม และหน่วยงานของสหประชาชาติ บนหลักการของการอยู่ร่วมกัน สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาค โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเปราะบางเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ยังมีการปรึกษาหารือแบบมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางกับผู้ได้รับประโยชน์ และพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าความต้องการและเรื่องที่สำคัญต่อพวกเขา โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพทางเพศ อนามัยการเจริญพันธุ์ การคลอดอย่างปลอดภัย และความปลอดภัยจากความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ รวมอยู่ในแผนงานด้วย ทั้งนี้ ผู้ได้รับประโยชน์หลักๆ ก็คือ ผู้หญิง วัยรุ่น เยาวชน ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้ที่อยู่ในความยากจน โดย&nbsp;UNFPA&nbsp;จะใช้แนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อเข้าถึงคนเหล่านี้ที่อยู่ห่างไกลที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ร่วมกับพันธมิตรเพื่อจัดการกับความท้าทาย หรือเพิ่มขยายการใช้นวัตกรรมที่พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ และร่วมมือทำงานกับนักประดิษฐ์จากภาครัฐและเอกชน” นางสาวสิริลักษณ์ กล่าวย้ำ

ด้าน นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กล่าวว่า ภายใต้แผนงานประเทศ (CPD 12th)&nbsp;พ.ศ.2565-2569&nbsp;อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้พบกับผู้อำนวยการ&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน&nbsp;2565&nbsp;ต่อด้วยด้วยการพบกับหน้าสำนักงานประจำประเทศไทยของ&nbsp;UNFPA&nbsp;ในเดือนมีนาคม&nbsp;2566&nbsp;ที่ผ่านมา โดยมีการหารืออย่างละเอียดถึงประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำงานร่วมกัน รวมทั้งมีการตกลงที่จะเร่งให้เกิดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs), ICPD-PoA,&nbsp;นโยบายและแผนระดับชาติเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์,&nbsp;และแผนงานประเทศ (Country Programme)&nbsp;ระยะ&nbsp;5&nbsp;ปี ของ&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย

“TICA&nbsp;ได้ให้การสนับสนุน&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ผ่านความร่วมมือไตรภาคี&nbsp;SSTC&nbsp;มาอย่างต่อเนื่อง การลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ในครั้งนี้ นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะทำให้กรอบความร่วมมือและการดำเนินงานมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการบรรลุ&nbsp;Three Transformative Results (3TFRs)&nbsp;ซึ่งเป็นภารกิจของ&nbsp;UNFPA&nbsp;นั่นคือการพัฒนาโครงการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ต่างๆ ซึ่งมีทั้งการพัฒนาศักยภาพการผดุงครรภ์ การยกระดับการศึกษาและแนวปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมพยาบาลผดุงครรภ์และบุคลากรด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องให้ดียิ่งขึ้นอันจะช่วยป้องกันการเสียชีวิตของมารดาและทารก การส่งเสริมบริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกของสหพันธ์ผดุงครรภ์นานาชาติ (ICM)&nbsp;ในอาเซียน อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)&nbsp;โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่&nbsp;3&nbsp;และเป้าหมายที่&nbsp;5&nbsp;โดยการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม จะทำให้เรานำพาประเทศไทยเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง” นางอุรีรัชต์กล่าว

<h1>UNFPA ประเทศไทย จับมือ TICA ลงนามความร่วมมือ</h1>UNFPA ประเทศไทย จับมือ TICA ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ (Strategic Partnership) พร้อมผลักดันกรอบการทำงานเชิงกลยุทธ์ เพื่อบรรลุภารกิจทั้งสามด้านของ UNFPA (Three Transformative Results) ที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)วันที่&nbsp;21&nbsp;สิงหาคม&nbsp;2566 –&nbsp;นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย และนางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ ระหว่าง กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Population Fund&nbsp;หรือ&nbsp;UNFPA)&nbsp;และ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency&nbsp;หรือ&nbsp;TICA)&nbsp;โดยมี นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/cbb6fc315f989e5e4abbf5b6a40d098b108fff562f125e96242706943067435a/unfpa2.jpg" alt="Image"/>นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ดำเนินแผนงานความร่วมมือ (Country Programme)&nbsp;ฉบับที่&nbsp;12&nbsp;โดยร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหลายภาคส่วนในประเทศไทยเพื่อบรรลุผลภารกิจทั้งสามด้านของ&nbsp;UNFPA (Three Transformative Results)&nbsp;ได้แก่ การส่งเสริมให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการการวางแผนครอบครัว การยุติการเสียชีวิตของมารดาจากสาเหตุที่ป้องกันได้และการยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศและการกระทำที่เป็นอันตรายในรูปแบบต่างๆ ต่อผู้หญิง วัยรุ่นหญิง และประชากรทุกกลุ่ม โดยภารกิจเหล่านี้คือหนทางสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)&nbsp;ภายใน พ.ศ.2573นางสาวสิริลักษณ์ กล่าวต่อว่า เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุภารกิจ ดังกล่าว&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ร่วมทำงานกับกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency&nbsp;หรือ&nbsp;TICA)&nbsp;อย่างต่อเนื่องยาวนาน ผ่านความร่วมมือ&nbsp;South-South and Triangular Cooperation (SSTC)&nbsp;หรือความร่วมมือแบบใต้-ใต้ และ แบบไตรภาคี และได้พัฒนามาสู่กรอบการทำงานเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมเพื่อสร้างความยั่งยืนในการบรรลุทั้ง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)&nbsp;และ&nbsp;Three Transformative Results (3TFRs)&nbsp;ซึ่งเป็นภารกิจของ&nbsp;UNFPA&nbsp;ภายใต้แผนงานประเทศ พ.ศ.2565-2569&nbsp;ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือระหว่าง&nbsp;UNFPA&nbsp;และประเทศไทย รวมทั้งกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (United Nations Sustainable Development Cooperation Framework)&nbsp;พ.ศ.&nbsp;2565-2569<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/0a04ffe3a6d4bc68834eb50ce839f431e3192e05489a8de092eee24cdaefee5a/unfpa3.jpg" alt="Image"/>“แผนงานของ&nbsp;UNFPA&nbsp;นั้น ได้รับการพัฒนาร่วมกับรัฐบาลไทย กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ องค์กรภาคประชาสังคม และหน่วยงานของสหประชาชาติ บนหลักการของการอยู่ร่วมกัน สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาค โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเปราะบางเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ยังมีการปรึกษาหารือแบบมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางกับผู้ได้รับประโยชน์ และพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าความต้องการและเรื่องที่สำคัญต่อพวกเขา โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพทางเพศ อนามัยการเจริญพันธุ์ การคลอดอย่างปลอดภัย และความปลอดภัยจากความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ รวมอยู่ในแผนงานด้วย ทั้งนี้ ผู้ได้รับประโยชน์หลักๆ ก็คือ ผู้หญิง วัยรุ่น เยาวชน ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้ที่อยู่ในความยากจน โดย&nbsp;UNFPA&nbsp;จะใช้แนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อเข้าถึงคนเหล่านี้ที่อยู่ห่างไกลที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ร่วมกับพันธมิตรเพื่อจัดการกับความท้าทาย หรือเพิ่มขยายการใช้นวัตกรรมที่พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ และร่วมมือทำงานกับนักประดิษฐ์จากภาครัฐและเอกชน” นางสาวสิริลักษณ์ กล่าวย้ำด้าน นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กล่าวว่า ภายใต้แผนงานประเทศ (CPD 12th)&nbsp;พ.ศ.2565-2569&nbsp;อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้พบกับผู้อำนวยการ&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน&nbsp;2565&nbsp;ต่อด้วยด้วยการพบกับหน้าสำนักงานประจำประเทศไทยของ&nbsp;UNFPA&nbsp;ในเดือนมีนาคม&nbsp;2566&nbsp;ที่ผ่านมา โดยมีการหารืออย่างละเอียดถึงประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำงานร่วมกัน รวมทั้งมีการตกลงที่จะเร่งให้เกิดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs), ICPD-PoA,&nbsp;นโยบายและแผนระดับชาติเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์,&nbsp;และแผนงานประเทศ (Country Programme)&nbsp;ระยะ&nbsp;5&nbsp;ปี ของ&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย“TICA&nbsp;ได้ให้การสนับสนุน&nbsp;UNFPA&nbsp;ประเทศไทย ผ่านความร่วมมือไตรภาคี&nbsp;SSTC&nbsp;มาอย่างต่อเนื่อง การลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ในครั้งนี้ นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะทำให้กรอบความร่วมมือและการดำเนินงานมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการบรรลุ&nbsp;Three Transformative Results (3TFRs)&nbsp;ซึ่งเป็นภารกิจของ&nbsp;UNFPA&nbsp;นั่นคือการพัฒนาโครงการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ต่างๆ ซึ่งมีทั้งการพัฒนาศักยภาพการผดุงครรภ์ การยกระดับการศึกษาและแนวปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมพยาบาลผดุงครรภ์และบุคลากรด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องให้ดียิ่งขึ้นอันจะช่วยป้องกันการเสียชีวิตของมารดาและทารก การส่งเสริมบริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกของสหพันธ์ผดุงครรภ์นานาชาติ (ICM)&nbsp;ในอาเซียน อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)&nbsp;โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่&nbsp;3&nbsp;และเป้าหมายที่&nbsp;5&nbsp;โดยการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม จะทำให้เรานำพาประเทศไทยเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง” นางอุรีรัชต์กล่าว<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/3cfa7654ef2536ec0e9827b7193d5e649332bea40757e8e9bad116d0fbfa3f1c/unfpa4.jpg" alt="Image"/>กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เริ่มโครงการสนับสนุนประเทศไทยในปี พ.ศ. 2514 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา UNFPA ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่องประชากรและการพัฒนา (ICPD) โดยเน้นการส่งเสริมสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิของเยาวชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเปราะบาง สนับสนุนการยุติการเสียชีวิตของมารดาที่ป้องกันได้ผ่านความร่วมมือแบบใต้-ใต้ (South-South and Triangular Cooperation) และจัดทำนโยบายเชิงประจักษ์เพื่อเตรียมประเทศไทยให้ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและสังคมสูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA)
โทร (66-2) 687-0138
อีเมล unfpa.thailand@unfpa.org

Environment / SGDs / Recycling

International activity

Politics / Government / Local government

Government offices / organizations

UNFPA ประเทศไทย จับมือ TICA ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ (Strategic Partnership) พร้อมผลักดันกรอบการทำงานเชิงกลยุทธ์ เพื่อบรรลุภารกิจทั้งสามด้านของ UNFPA (Three Transformative Results) ที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

UNFPA Thailand