SolarEdge เป็นแบรนด์ผู้บุกเบิกระบบ Rapid Shutdown มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยติดตั้งระบบ Rapid Shutdown ไปแล้วมากกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ด้านพลังงานอัจฉริยะและเทคโนโลยี PV ถึง 16 ปี ผู้ใช้งานทั่วโลกรวมถึงผู้ใช้งานในไทยสามารถเชื่อมั่นได้ในเทคโนโลยีและโซลูชั่นของ&nbsp;SolarEdge

แดเนียล ฮูเบอร์ (Daniel Huber) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ (Chief Revenue Officer) ของSolarEdge&nbsp;เปิดเผยว่า “เราเข้าร่วมงานนี้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสรับฟังความคิดเห็นของตลาด พบปะและรับฟังความต้องการของลูกค้า รวมทั้งรับรู้ความเคลื่อนไหวในตลาด ตลอดจนทำความเข้าใจว่า กลุ่มลูกค้ามีความคาดหวังอะไรในเรื่องโซลูชั่นต่าง ๆ จากเรา เหล่านี้คือเป้าหมายหลักของเราในการเข้าร่วมงาน”

สำหรับโซลูชั่นที่โดดเด่นที่&nbsp;SolarEdge ได้นำเสนอและสาธิตภายในงาน ASEW 2023 ได้แก่ SolarEdge Home ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;กล่าวว่า&nbsp;“เราได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า&nbsp;SolarEdge Home&nbsp;ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่มีความสมบูรณ์แบบครบวงจร โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของโซลาร์เซลล์,&nbsp;ระบบกักเก็บพลังงาน,&nbsp;ความสามารถในการแบ็กอัปหรือสำรองไฟในกรณีที่ไฟฟ้าดับ,&nbsp;รวมทั้งระบบชาร์จรถไฟฟ้า นี่จึงเป็นโอกาสที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์จากระบบโซลาร์ที่ครบวงจร ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ทั้งในเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และความยืดหยุ่นอย่างเต็มรูปแบบในกรณีที่เกิดเหตุไฟดับ”

ความก้าวหน้าในตลาดโซลาร์เซลล์ของประเทศไทย

แดเนียล ฮูเบอร์ เผยถึงวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจในประเทศไทยว่า แผนโร้ดแม็ปของเราในภาคธุรกิจ คือ การขยายกิจการออกไปในส่วนของอินเวอร์เตอร์ที่จะมีความจุมากขึ้น เราจะนำเสนออินเวอร์เตอร์ขนาด 330 กิโลวัตต์ในปี พ.ศ. 2567 รวมทั้งเปิดตัวระบบเพิ่มประสิทธิภาพที่มีความจุสูงขึ้น ส่วนในภาคครัวเรือนนั้น เราจะยังขยายกิจการและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในส่วนของ&nbsp;SolarEdge Home ต่อไป

นอกเหนือไปจากแนวโน้มที่สดใสของตลาดในไทยแล้ว ฮูเบอร์ยังได้กล่าวว่า&nbsp;“การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยนั้น มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุน และค่าไฟฟ้าเองก็ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ตลาดในประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับเรา และยังเป็นตลาดที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน”&nbsp;

นอกจากนี้ การใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่สูงขึ้นยังมาจากการใช้รถไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ๆ ทำให้เกิดความต้องการในการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น และพลังงานแสงอาทิตย์ก็เป็นโซลูชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการเหล่านี้ ดังนั้น SolarEdge จึงมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจรสำหรับภาคครัวเรือนด้วยเช่นกัน

เทคโนโลยีของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;ได้รับเสียงตอบรับที่น่าประทับใจในงาน&nbsp;ASEW 2023

นายวีรุจน์ เตชะสุวรรณา&nbsp;ผู้จัดการประจำประเทศไทย (Country Manager) ของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;Thailand เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ&nbsp;SolarEdge ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมในงาน ASEW 2023 ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมล่าสุดของบริษัท คือ&nbsp;ฟังก์ชั่น&nbsp;Sense Connect&nbsp;ใน&nbsp;Power Optimizer โดย Sense Connect เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิที่ผิดปกติในฝั่งที่ต่อกับคอนเนคเตอร์แผง (PV Connector) และฝั่งที่ต่อกับสตริงของ&nbsp;Power Optimizer เอง ซึ่งภายในงานได้มีการจำลองการทำงานให้ชม นับเป็นการสาธิตศักยภาพในด้านความปลอดภัยขั้นสูงของ Power Optimizer เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม

นอกจากนี้&nbsp;SolarEdge ยังมีการจำลองการทำงานของ Rapid Shutdown หนึ่งในฟังก์ชั่นความปลอดภัยของ Power Optimizer ซึ่งได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานสากล UL3741 แบรนด์แรกในประเทศ โดยเป็นไปตามระเบียบบังคับ วสท. ฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนปีที่แล้ว&nbsp;ในขณะที่คอนเซ็ปต์ของ Rapid Shutdown เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางแล้วนั้น แต่รายละเอียดการทำงานของ Rapid Shutdown ยังไม่เป็นที่รับรู้กันเท่าไหร่นัก ทาง&nbsp;SolarEdge จึงได้สาธิตระบบแบบอินเตอร์แอคทีฟเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ ผู้เข้าร่วมงานจึงมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้งาน ความปลอดภัยที่ได้รับ และการตรวจสอบติดตามพร้อมทั้งบำรุงรักษาอุปกรณ์เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพภายในงาน

โซลูชั่นและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;ในงาน&nbsp;ASEW 2023

SolarEdge Home:&nbsp;ประกอบด้วย SolarEdge&nbsp;Home Hub Inverter, SolarEdge&nbsp;Power Optimizers, SolarEdge&nbsp;Home Battery, SolarEdge&nbsp;Home Backup Interface และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ โซลูชั่นแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มกำลังไฟฟ้าสำหรับการใช้งานภายในบ้านและทำให้เจ้าของบ้านประหยัดพลังงาน โดยการรวมการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์, สถานะแบตเตอรี่, และปริมาณไฟสำรอง

โซลูชั่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานจากดวงอาทิตย์ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี DC-coupled ส่งผลให้โซลูชั่นเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ได้มากขึ้นเพื่อใช้เป็นพลังงานให้กับบ้านและสำรองไฟระหว่างที่ไฟดับ อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการได้ด้วยแอป mySolarEdge เพียงแอปเดียว เจ้าของบ้านสามารถติดตามและควบคุมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในบ้าน, การประหยัดพลังงาน, และลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างชาญฉลาด

โซลูชั่นเชิงพาณิชย์&nbsp;(Commercial solutions):&nbsp;Power Optimizer รุ่น S-series, อินเวอร์เตอร์แบบสามเฟสที่มี DCD ขนาดกำลังสูงสุด 33.3kW, และอินเวอร์เตอร์สามเฟสพร้อม Synergy Technology ขนาดกำลังสูงสุด 120Kw

การสาธิตคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;(SolarEdge&nbsp;Safety Features Demonstration):&nbsp;การสาธิตคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ SolarEdge เพื่อให้สัมผัสคุณสมบัติความปลอดภัยหลายชั้นของ SolarEdge โดยตรงด้วยการสาธิตสดของ Sense Connect, Rapid Shutdown และ SafeDCTM&nbsp;ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถใช้ได้กับโซลูชั่นทั้งหมดของ SolarEdge ตั้งแต่อินเวอร์เตอร์แบบหนึ่งเฟสและสามเฟส

<h1>SolarEdge ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะและโซลาร์เซลล์ที่งาน ASEW 2023</h1>SolarEdge ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะและโซลาร์เซลล์ ประสบความสำเร็จในงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2023 (ASEW 2023) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของบริษัทในการออกบูธแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยเล็งเห็นถึงโอกาสจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโซลาร์เซลล์ในไทย จากความต้องการในการใช้งานโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าไฟฟ้า และมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งภายในงานได้นำเสนอโซลูชั่นโซลาร์เซลล์สำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือน เช่น SolarEdge Power Optimizer (อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า), SolarEdge Home (โซลูชั่นระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับบ้านพักอาศัย), โซลูชั่นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ การเข้าร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อตลาดโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยSolarEdge เป็นแบรนด์ผู้บุกเบิกระบบ Rapid Shutdown มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยติดตั้งระบบ Rapid Shutdown ไปแล้วมากกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ด้านพลังงานอัจฉริยะและเทคโนโลยี PV ถึง 16 ปี ผู้ใช้งานทั่วโลกรวมถึงผู้ใช้งานในไทยสามารถเชื่อมั่นได้ในเทคโนโลยีและโซลูชั่นของ&nbsp;SolarEdgeแดเนียล ฮูเบอร์ (Daniel Huber) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ (Chief Revenue Officer) ของSolarEdge&nbsp;เปิดเผยว่า “เราเข้าร่วมงานนี้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสรับฟังความคิดเห็นของตลาด พบปะและรับฟังความต้องการของลูกค้า รวมทั้งรับรู้ความเคลื่อนไหวในตลาด ตลอดจนทำความเข้าใจว่า กลุ่มลูกค้ามีความคาดหวังอะไรในเรื่องโซลูชั่นต่าง ๆ จากเรา เหล่านี้คือเป้าหมายหลักของเราในการเข้าร่วมงาน”สำหรับโซลูชั่นที่โดดเด่นที่&nbsp;SolarEdge ได้นำเสนอและสาธิตภายในงาน ASEW 2023 ได้แก่ SolarEdge Home ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;กล่าวว่า&nbsp;“เราได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า&nbsp;SolarEdge Home&nbsp;ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่มีความสมบูรณ์แบบครบวงจร โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของโซลาร์เซลล์,&nbsp;ระบบกักเก็บพลังงาน,&nbsp;ความสามารถในการแบ็กอัปหรือสำรองไฟในกรณีที่ไฟฟ้าดับ,&nbsp;รวมทั้งระบบชาร์จรถไฟฟ้า นี่จึงเป็นโอกาสที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์จากระบบโซลาร์ที่ครบวงจร ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ทั้งในเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และความยืดหยุ่นอย่างเต็มรูปแบบในกรณีที่เกิดเหตุไฟดับ”<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/1728d055e4490876cd1c0e73fbfbd45956940c660feacbc57a4d1701e66bcdd6/ASEW_-60-1.jpg" alt="Image"/>ความก้าวหน้าในตลาดโซลาร์เซลล์ของประเทศไทยแดเนียล ฮูเบอร์ เผยถึงวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจในประเทศไทยว่า แผนโร้ดแม็ปของเราในภาคธุรกิจ คือ การขยายกิจการออกไปในส่วนของอินเวอร์เตอร์ที่จะมีความจุมากขึ้น เราจะนำเสนออินเวอร์เตอร์ขนาด 330 กิโลวัตต์ในปี พ.ศ. 2567 รวมทั้งเปิดตัวระบบเพิ่มประสิทธิภาพที่มีความจุสูงขึ้น ส่วนในภาคครัวเรือนนั้น เราจะยังขยายกิจการและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในส่วนของ&nbsp;SolarEdge Home ต่อไปนอกเหนือไปจากแนวโน้มที่สดใสของตลาดในไทยแล้ว ฮูเบอร์ยังได้กล่าวว่า&nbsp;“การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยนั้น มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุน และค่าไฟฟ้าเองก็ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ตลาดในประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับเรา และยังเป็นตลาดที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน”&nbsp;นอกจากนี้ การใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่สูงขึ้นยังมาจากการใช้รถไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ๆ ทำให้เกิดความต้องการในการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น และพลังงานแสงอาทิตย์ก็เป็นโซลูชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการเหล่านี้ ดังนั้น SolarEdge จึงมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจรสำหรับภาคครัวเรือนด้วยเช่นกันเทคโนโลยีของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;ได้รับเสียงตอบรับที่น่าประทับใจในงาน&nbsp;ASEW 2023นายวีรุจน์ เตชะสุวรรณา&nbsp;ผู้จัดการประจำประเทศไทย (Country Manager) ของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;Thailand เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ&nbsp;SolarEdge ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมในงาน ASEW 2023 ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมล่าสุดของบริษัท คือ&nbsp;ฟังก์ชั่น&nbsp;Sense Connect&nbsp;ใน&nbsp;Power Optimizer โดย Sense Connect เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิที่ผิดปกติในฝั่งที่ต่อกับคอนเนคเตอร์แผง (PV Connector) และฝั่งที่ต่อกับสตริงของ&nbsp;Power Optimizer เอง ซึ่งภายในงานได้มีการจำลองการทำงานให้ชม นับเป็นการสาธิตศักยภาพในด้านความปลอดภัยขั้นสูงของ Power Optimizer เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลามนอกจากนี้&nbsp;SolarEdge ยังมีการจำลองการทำงานของ Rapid Shutdown หนึ่งในฟังก์ชั่นความปลอดภัยของ Power Optimizer ซึ่งได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานสากล UL3741 แบรนด์แรกในประเทศ โดยเป็นไปตามระเบียบบังคับ วสท. ฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนปีที่แล้ว&nbsp;ในขณะที่คอนเซ็ปต์ของ Rapid Shutdown เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางแล้วนั้น แต่รายละเอียดการทำงานของ Rapid Shutdown ยังไม่เป็นที่รับรู้กันเท่าไหร่นัก ทาง&nbsp;SolarEdge จึงได้สาธิตระบบแบบอินเตอร์แอคทีฟเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ ผู้เข้าร่วมงานจึงมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้งาน ความปลอดภัยที่ได้รับ และการตรวจสอบติดตามพร้อมทั้งบำรุงรักษาอุปกรณ์เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพภายในงาน<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/fdd28f713426434b9738fcda6fa1d141acad4c14d55ee10c9126a27b8ce23068/ASEW_Bangkok_Thailand_2023_Day-2-298-1.jpg" alt="Image"/>โซลูชั่นและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;ในงาน&nbsp;ASEW 2023SolarEdge Home:&nbsp;ประกอบด้วย SolarEdge&nbsp;Home Hub Inverter, SolarEdge&nbsp;Power Optimizers, SolarEdge&nbsp;Home Battery, SolarEdge&nbsp;Home Backup Interface และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ โซลูชั่นแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มกำลังไฟฟ้าสำหรับการใช้งานภายในบ้านและทำให้เจ้าของบ้านประหยัดพลังงาน โดยการรวมการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์, สถานะแบตเตอรี่, และปริมาณไฟสำรองโซลูชั่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานจากดวงอาทิตย์ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี DC-coupled ส่งผลให้โซลูชั่นเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ได้มากขึ้นเพื่อใช้เป็นพลังงานให้กับบ้านและสำรองไฟระหว่างที่ไฟดับ อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการได้ด้วยแอป mySolarEdge เพียงแอปเดียว เจ้าของบ้านสามารถติดตามและควบคุมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในบ้าน, การประหยัดพลังงาน, และลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างชาญฉลาดโซลูชั่นเชิงพาณิชย์&nbsp;(Commercial solutions):&nbsp;Power Optimizer รุ่น S-series, อินเวอร์เตอร์แบบสามเฟสที่มี DCD ขนาดกำลังสูงสุด 33.3kW, และอินเวอร์เตอร์สามเฟสพร้อม Synergy Technology ขนาดกำลังสูงสุด 120Kwการสาธิตคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ&nbsp;SolarEdge&nbsp;(SolarEdge&nbsp;Safety Features Demonstration):&nbsp;การสาธิตคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ SolarEdge เพื่อให้สัมผัสคุณสมบัติความปลอดภัยหลายชั้นของ SolarEdge โดยตรงด้วยการสาธิตสดของ Sense Connect, Rapid Shutdown และ SafeDCTM&nbsp;ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถใช้ได้กับโซลูชั่นทั้งหมดของ SolarEdge ตั้งแต่อินเวอร์เตอร์แบบหนึ่งเฟสและสามเฟสSolarEdge เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะระดับโลก ด้วยการนำขีดความสามารถด้านวิศวกรรมระดับโลกมาผสานกับความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง SolarEdge จึงได้รังสรรค์โซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะขึ้นเพื่อขับเคลื่อนชีวิตของพวกเราและผลักดันความก้าวหน้าสู่อนาคต SolarEdge ได้พัฒนาโซลูชั่นอินเวอร์เตอร์อัจฉริยะซึ่งได้เปลี่ยนรูปแบบการเก็บเกี่ยว และการจัดการพลังงานในระบบโซล่าร์เซลล์ (PV) โดยอินเวอร์เตอร์ DC optimized ของ SolarEdge จะช่วยเพิ่มการผลิตไฟฟ้าสูงสุดทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิต พลังงานด้วยระบบโซล่าร์เซลล์อีกด้วย และในขณะที่ SolarEdge ยังมุ่งมั่นพัฒนาพลังงานอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง SolarEdge ได้ตอบโจทย์กลุ่มตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านระบบโซล่าร์เซลล์ (PV). อุปกรณ์กักเก็บพลังงาน, การชาร์จ EV, แบตเตอรี่, โซลูชั่นงานบริการด้านสายส่ง, และโซลูชั่นบริการด้านกริด เยี่ยมชมเราได้ที่ solaredge.comSolarEdge
โทร 1800-012-369
อีเมล info@solaredge.com

Electricity / Gas / Resources / Energy

Green technology

Goods and services

SolarEdge ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะและโซลาร์เซลล์ ประสบความสำเร็จในงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2023 (ASEW 2023) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของบริษัทในการออกบูธแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยเล็งเห็นถึงโอกาสจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโซลาร์เซลล์ในไทย จากความต้องการในการใช้งานโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าไฟฟ้า และมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งภายในงานได้นำเสนอโซลูชั่นโซลาร์เซลล์สำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือน เช่น SolarEdge Power Optimizer (อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า), SolarEdge Home (โซลูชั่นระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับบ้านพักอาศัย), โซลูชั่นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ การเข้าร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อตลาดโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย

Solar Edge