คุณชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง ได้เปิดเผยว่า ตลอดปี 2023 นี้ Pranda Group ยังคงเดินตามแผนกลยุทธ์ Omnichannel ที่วางไว้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เชื่อมั่นว่า แผนกลยุทธ์ Brand Repositioning และการพัฒนาช่องทางออนไลน์ Marketplace และ Owned Channel จะช่วยสร้างยอดขาย และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น มีโอกาสทำให้กลุ่มธุรกิจ&nbsp;Omnichannel เติบโต และเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

PRIMA Thailand รุกแผนเติบโตในกลุ่ม Young Generation

ปี 2023 นี้ PRIMA Thailand ตั้งเป้าเติบโต 30% โดยรุกแผนขยายการเติบโตในกลุ่ม Young Generation ด้วยการออกแบบกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ ที่เหมาะกับทุกวัย สวมใส่ได้ทุกโอกาส รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเดิม ที่มีกำลังซื้อสูง ผ่านการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (CRM Program) และพัฒนาการเข้าถึงลูกค้าด้วยช่องทางออนไลน์ Marketplace, Owned Channel มากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง4 เดือนแรกของปี 2023 PRIMA Thailand มียอดขายผ่านตลาดออนไลน์โตขึ้น 20% และยอดขายผ่านออฟไลน์ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าภาพรวมของยอดขายในประเทศไทยจะลดลงเล็กน้อย แต่สำหรับยอดขายในกลุ่มลูกค้าระดับ Prima Prestige กลับโตขึ้น 18% ในโตรมาส 1/2023 และคาดว่าในปี 2023 นี้จะสามารถปิดยอดขายในกลุ่มลูกค้าระดับ Prima Prestige ได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ด้วยการตอกย้ำ Brand Experience ผ่านสื่อและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

PRIMA Vietnam เดินเกม&nbsp;Brand Repositioning เสริมจุดแกร่ง PRIMA ART

จากสถานการณ์เศรษฐกิจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม เสี่ยงวิกฤตฟองสบู่ลุกลามไปยังภาคธุรกิจอื่นในตลาดทุน ส่งผลต้นทุนทางการเงินสูง กระทบการชำระหนี้ ย่อมกระทบต่อกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ PRIMA ต่างอยู่ในภาวะชะลอการจับจ่ายใช้สอยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ จากผลตอบรับ แบรนด์ PRIMA ในตลาดเวียดนาม พบว่า แผ่นภาพทองคำ PRIMA ART ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเวียดนามที่นิยมซื้อเป็นของตกแต่งบ้าน ถือเป็นงานศิลปะที่เลอค่าในใจผู้บริโภค นำมาสู่กลยุทธ์ Brand Repositioning เพื่อสร้างความชัดเจนในการกำหนดตำแหน่งของสินค้า โดยการวางจำหน่าย PRIMA ซึ่งเป็น Fine Jewelry ผ่านร้านค้าใน Luxury Department Store และแตกไลน์ PRIMA ARTจำหน่ายผ่านร้าน Stand Alone และร้านค้าปลีกของประดับตกแต่งบ้าน เพื่อโชว์จุดแกร่งของPRIMA ARTให้โดดเด่นขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมยอดขาย PRIMA ART ให้เติบโตได้มากขึ้น คาดว่าจะทำให้รายได้จากการขายในประเทศเวียดนามกลับมาเติบโต

ตลาดอินเดีย ยอดขาย PRIMA ART พุ่ง มุ่งเจาะกลุ่มYounger Generation

สำหรับ PRIMA ประเทศอินเดีย ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินค้าหลักคือ PRIMA ART ที่ครองตลาดมายาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งปี 2023 นี้ บริษัทฯ เน้นการเติบโตผ่าน Key Account ที่เป็นร้านค้าหลักที่จำหน่ายเครื่องประดับและของตกแต่งบ้าน อีกทั้งมีการนำเสนอในรูปแบบ PRIMA ART Gallery เพื่อเสริมแบรนด์ให้โดดเด่น และพร้อมเดินแผนกลยุทธ์ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยการออกสินค้าใหม่ที่เกี่ยวกับความเชื่อ หรือ Spiritual Collection เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม Younger Generation และเน้นการตลาดแบบ E-Commerce มากขึ้น สร้าง Brand Awareness อีกทั้งเพิ่มกำลังการผลิต รองรับการเติบโตที่สูงขึ้น ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี2023 มียอดขายเติบโตขึ้น 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

GEMONDO U.K. เน้นจุดขายที่มีอยู่ เร่งขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง

แบรนด์ GEMONDO ประเทศอังกฤษ ได้มีการวางกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นจุดขายที่มีอยู่ และเพิ่มการเติบโตของยอดขาย ผ่าน E-Commerce และMarketplace ตลอดจนการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีแรกนี้ GEMONDO มียอดขายต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพราะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากที่ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้

<h1>Pranda Group ขยายการเติบโตตลาดรีเทล</h1>บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ Pranda Group ยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับแบรนด์ของตนเอง หรือ กลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution ภายใต้แบรนด์ PRIMA ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และแบรนด์ PRIMA ART ในประเทศอินเดีย รวมถึงแบรนด์ GEMONDO ประเทศอังกฤษ พร้อมเร่งยอดขาย ขยายการเติบโตในปี 2023คุณชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง ได้เปิดเผยว่า ตลอดปี 2023 นี้ Pranda Group ยังคงเดินตามแผนกลยุทธ์ Omnichannel ที่วางไว้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เชื่อมั่นว่า แผนกลยุทธ์ Brand Repositioning และการพัฒนาช่องทางออนไลน์ Marketplace และ Owned Channel จะช่วยสร้างยอดขาย และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น มีโอกาสทำให้กลุ่มธุรกิจ&nbsp;Omnichannel เติบโต และเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นPRIMA Thailand รุกแผนเติบโตในกลุ่ม Young Generationปี 2023 นี้ PRIMA Thailand ตั้งเป้าเติบโต 30% โดยรุกแผนขยายการเติบโตในกลุ่ม Young Generation ด้วยการออกแบบกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ ที่เหมาะกับทุกวัย สวมใส่ได้ทุกโอกาส รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเดิม ที่มีกำลังซื้อสูง ผ่านการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (CRM Program) และพัฒนาการเข้าถึงลูกค้าด้วยช่องทางออนไลน์ Marketplace, Owned Channel มากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง4 เดือนแรกของปี 2023 PRIMA Thailand มียอดขายผ่านตลาดออนไลน์โตขึ้น 20% และยอดขายผ่านออฟไลน์ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าภาพรวมของยอดขายในประเทศไทยจะลดลงเล็กน้อย แต่สำหรับยอดขายในกลุ่มลูกค้าระดับ Prima Prestige กลับโตขึ้น 18% ในโตรมาส 1/2023 และคาดว่าในปี 2023 นี้จะสามารถปิดยอดขายในกลุ่มลูกค้าระดับ Prima Prestige ได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ด้วยการตอกย้ำ Brand Experience ผ่านสื่อและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องPRIMA Vietnam เดินเกม&nbsp;Brand Repositioning เสริมจุดแกร่ง PRIMA ARTจากสถานการณ์เศรษฐกิจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม เสี่ยงวิกฤตฟองสบู่ลุกลามไปยังภาคธุรกิจอื่นในตลาดทุน ส่งผลต้นทุนทางการเงินสูง กระทบการชำระหนี้ ย่อมกระทบต่อกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ PRIMA ต่างอยู่ในภาวะชะลอการจับจ่ายใช้สอยเช่นเดียวกันทั้งนี้ จากผลตอบรับ แบรนด์ PRIMA ในตลาดเวียดนาม พบว่า แผ่นภาพทองคำ PRIMA ART ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเวียดนามที่นิยมซื้อเป็นของตกแต่งบ้าน ถือเป็นงานศิลปะที่เลอค่าในใจผู้บริโภค นำมาสู่กลยุทธ์ Brand Repositioning เพื่อสร้างความชัดเจนในการกำหนดตำแหน่งของสินค้า โดยการวางจำหน่าย PRIMA ซึ่งเป็น Fine Jewelry ผ่านร้านค้าใน Luxury Department Store และแตกไลน์ PRIMA ARTจำหน่ายผ่านร้าน Stand Alone และร้านค้าปลีกของประดับตกแต่งบ้าน เพื่อโชว์จุดแกร่งของPRIMA ARTให้โดดเด่นขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมยอดขาย PRIMA ART ให้เติบโตได้มากขึ้น คาดว่าจะทำให้รายได้จากการขายในประเทศเวียดนามกลับมาเติบโตตลาดอินเดีย ยอดขาย PRIMA ART พุ่ง มุ่งเจาะกลุ่มYounger Generation<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/20de971f83341944ba09ebe98fa82a34a39df2cbb23e7e3c97262e184fd6222f/pranda2.jpg" alt="Image"/>สำหรับ PRIMA ประเทศอินเดีย ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินค้าหลักคือ PRIMA ART ที่ครองตลาดมายาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งปี 2023 นี้ บริษัทฯ เน้นการเติบโตผ่าน Key Account ที่เป็นร้านค้าหลักที่จำหน่ายเครื่องประดับและของตกแต่งบ้าน อีกทั้งมีการนำเสนอในรูปแบบ PRIMA ART Gallery เพื่อเสริมแบรนด์ให้โดดเด่น และพร้อมเดินแผนกลยุทธ์ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยการออกสินค้าใหม่ที่เกี่ยวกับความเชื่อ หรือ Spiritual Collection เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม Younger Generation และเน้นการตลาดแบบ E-Commerce มากขึ้น สร้าง Brand Awareness อีกทั้งเพิ่มกำลังการผลิต รองรับการเติบโตที่สูงขึ้น ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี2023 มียอดขายเติบโตขึ้น 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนGEMONDO U.K. เน้นจุดขายที่มีอยู่ เร่งขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/957a4681e27b368ded737897aa89dd9ba305ddf4d70dbbdc6ef4d4562d45718f/pranda3.jpg" alt="Image"/>แบรนด์ GEMONDO ประเทศอังกฤษ ได้มีการวางกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นจุดขายที่มีอยู่ และเพิ่มการเติบโตของยอดขาย ผ่าน E-Commerce และMarketplace ตลอดจนการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีแรกนี้ GEMONDO มียอดขายต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพราะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากที่ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้แพรนด้า กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2516 ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของไทย ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แพรนด้าได้รับการยอมรับในความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานฝีมือที่มีความประณีตและเป็นที่ต้องการของแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำระดับโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้แพรนด้ายังได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของสภาเครื่องประดับที่มีความรับผิดชอบ หรือ Responsible Jewellery Council (RJC) และได้รับการรับรองระบบมาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล หรือ ISO 9001บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) 
อีเมล์ info@pranda.com
โทร: 02-769-9999

Jewelry / Accessories

Ladies' Fashion

บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ Pranda Group ยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับแบรนด์ของตนเอง หรือ กลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution ภายใต้แบรนด์ PRIMA ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และแบรนด์ PRIMA ART ในประเทศอินเดีย รวมถึงแบรนด์ GEMONDO ประเทศอังกฤษ พร้อมเร่งยอดขาย ขยายการเติบโตในปี 2023

Pranda Group ขยายการเติบโตตลาดรีเทล

จากสถานการณ์ดังกล่าว Pranda Group ยังคงเดินตามแผนกลยุทธ์ด้านการผลิตที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง มุ่งโฟกัสที่ความแข็งแกร่งของธุรกิจ ในการเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีที่มีความเชี่ยวชาญการรังสรรค์งานฝีมือชั้นสูงที่มีความประณีต ตอบโจทย์ด้านคุณภาพ และปริมาณในเชิงพาณิชย์ ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับผลตอบรับที่ดีจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2023 นี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพในการดำเนินงาน เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค บริษัทฯจึงได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม Accessible Luxury Jewelry Brand  หรือกลุ่มแบรนด์เครื่องประดับหรูที่มีราคาที่สูงขึ้น เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง และได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจน้อยมาก ซึ่งในปี 2023 นี้ กลุ่มลูกค้า Accessible Luxury Jewelry Brand มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าเป้าที่วางไว้  เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ด้วยกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ มั่นใจว่ายอดขายในกลุ่มธุรกิจการผลิตช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มีการวางแผนร่วมกันกับบริษัทฯ ทั้งในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ  และการวางแผนคำสั่งซื้อล่วงหน้า รวมถึงกลุ่มลูกค้าเดิมเริ่มทยอยมีคำสั่งซื้อซ้ำกลับเข้ามา ถือเป็นสัญญาณที่ดี

<h1>Pranda Group ชูความแกร่งฐานการผลิตเครื่องประดับ เจาะกลุ่มลูกค้า Accessible Luxury Jewelry Brand</h1>คุณชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ Pranda Group เปิดเผยว่า จากที่ไตรมาส1/2023 บริษัทฯมีรายได้จากการขายในกลุ่มธุรกิจการผลิต 469 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9% เป็นผลจากคำสั่งซื้อของตลาดหลักชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส4/20222 ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครน แต่อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังของปี 2023 นี้ แนวโน้มธุรกิจลักชัวรี่จะกลับมาเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี จากคำสั่งซื้อที่กลับมาปกติจากสถานการณ์ดังกล่าว Pranda Group ยังคงเดินตามแผนกลยุทธ์ด้านการผลิตที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง มุ่งโฟกัสที่ความแข็งแกร่งของธุรกิจ ในการเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีที่มีความเชี่ยวชาญการรังสรรค์งานฝีมือชั้นสูงที่มีความประณีต ตอบโจทย์ด้านคุณภาพ และปริมาณในเชิงพาณิชย์ ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับผลตอบรับที่ดีจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2023 นี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพในการดำเนินงาน เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค บริษัทฯจึงได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม Accessible Luxury Jewelry Brand หรือกลุ่มแบรนด์เครื่องประดับหรูที่มีราคาที่สูงขึ้น เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง และได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจน้อยมาก ซึ่งในปี 2023 นี้ กลุ่มลูกค้า Accessible Luxury Jewelry Brand มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าเป้าที่วางไว้ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/eb1a332490b80defab397af7019eb6fa1d1ceeeaf178f7b040c3ea994e7da312/3-217%20%281%29.jpg" alt="Image"/>ด้วยกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ มั่นใจว่ายอดขายในกลุ่มธุรกิจการผลิตช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มีการวางแผนร่วมกันกับบริษัทฯ ทั้งในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการวางแผนคำสั่งซื้อล่วงหน้า รวมถึงกลุ่มลูกค้าเดิมเริ่มทยอยมีคำสั่งซื้อซ้ำกลับเข้ามา ถือเป็นสัญญาณที่ดีแพรนด้า กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2516 ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของไทย ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แพรนด้าได้รับการยอมรับในความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานฝีมือที่มีความประณีตและเป็นที่ต้องการของแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำระดับโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
นอกจากนี้ แพรนด้ายังได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของสภาเครื่องประดับที่มีความรับผิดชอบ หรือ Responsible Jewellery Council (RJC) และได้รับการรับรองระบบมาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล หรือ ISO 9001
บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516 ในนามของบริษัท แพรนด้า ดีไซน์ จำกัด ต่อมาได้จัดตั้งบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด ขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2527 และได้นำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนใตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2533 ซึ่งได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 3มิถุนายน พ.ศ.2537 (ชื่อหุ้น : PDJ)อีเมล์ info@pranda.com
โทร: 02-769-9999

Marketing / Research

คุณชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง  บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ Pranda Group เปิดเผยว่า จากที่ไตรมาส1/2023 บริษัทฯมีรายได้จากการขายในกลุ่มธุรกิจการผลิต 469 ล้านบาท  ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9%  เป็นผลจากคำสั่งซื้อของตลาดหลักชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส4/20222 ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครน แต่อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังของปี 2023 นี้ แนวโน้มธุรกิจลักชัวรี่จะกลับมาเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี จากคำสั่งซื้อที่กลับมาปกติ