/ EquitiesFirst และ Institutional Investor เผยแพร่รายงานระดับภูมิภาคฉบับใหม่ ให้ข้อมูลอนาคตตลาดตราสารทุนในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และอเมริกาเหนือ
- ผู้ลงทุนสถาบันในอเมริกาเหนือและยุโรปราว 82% มองว่ามีความผันผวนเพิ่มขึ้น ขณะที่ฟากเอเชียแปซิฟิกมีเพียง 54%
- นักลงทุนในเอเชียแปซิฟิกกังวลเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้า กำแพงภาษีศุลกากร และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าที่อื่น
- นักลงทุนในยุโรปพะวงเรื่องพลังงานมากที่สุด ส่วนนักลงทุนในอเมริกาเหนือห่วงปัญหาการโจมตีทางไซเบอร์
รายงานระดับภูมิภาคชุดใหม่จาก EquitiesFirst ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการให้สินเชื่อ ร่วมกับทาง Institutional Investor ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ด้าน B2B เปิดเผยการคาดการณ์และกลยุทธ์ของนักลงทุนในตราสารทุนที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และอเมริกาเหนือ งานวิจัยชุดดังกล่าวจัดทำขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 20 ปี ของ EquitiesFirst และเป็นผลงานล่าสุดภายใต้ความร่วมมือทางการวิจัยซึ่งเคยตีพิมพ์ผลการศึกษาระดับโลกชิ้นสำคัญในเรื่องอนาคตตลาดตราสารทุนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
แม้การคาดการณ์ผลตอบแทนของนักลงทุนตราสารทุนทั้งในเอเชียแปซิฟิก (6%) ยุโรป (5.7%) และอเมริกาเหนือ (5.9%) จะแตกต่างกันไม่มาก แต่รายงานระดับภูมิภาคก็เผยให้เห็นมุมมองต่อความผันผวนที่ไม่เหมือนกันระหว่างตะวันออกและตะวันตก โดยในอเมริกาเหนือและยุโรป นักลงทุนราว 82% คาดการณ์ว่าจะเกิดความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างมากหรือบางระดับในอีก 1.5 ปีข้างหน้า ขณะที่ฝั่งเอเชียแปซิฟิกมีมุมมองเช่นนั้นเพียง 54% ทั้งนี้นักลงทุนฟากยุโรป (36%) มองว่าจะเกิดความผันผวนในระดับสูงมากกว่านักลงทุนฝั่งอเมริกาเหนือ (21%)
รายงานชุดนี้ยังมีข้อมูลเชิงลึกในตลาดที่มีประโยชน์อีกหลายด้าน ซึ่งเกิดจากการผสานความเป็นผู้นำทางความคิดในด้านนวัตกรรมทางการเงินของ EquitiesFirst และความสามารถด้านการศึกษาวิจัยที่ครอบคลุมจาก Custom Research Lab ของ Instituation Investor ซึ่งรวบรวมและกลั่นกรองมุมมองจาก CIO, ผู้จัดการพอร์ตการลงทุน ตลอดจนผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้านการลงทุนกว่า 300 คน ในสถาบันการเงินระดับโลก
รายการชุดนี้มีข้อมูลไฮไลต์ความแตกต่างที่น่าสนใจมากมายในแต่ละภูมิภาค ที่จะช่วยให้การตัดสินใจด้านการลงทุนทำได้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่นการที่แต่ละภูมิภาคมองความเสี่ยงหลักที่คาดการณ์ในตลาดตราสารทุนแตกต่างกันไป
ข้อมูลที่น่าสนใจประกอบด้วย
- ความสัมพันธ์การทางการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัญหาหลักในเอเชียแปซิฟิก: นักลงทุนที่ลงทุนในเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก (60%) มองความสัมพันธ์ทางการค้าและกำแพงภาษีศุลกากรเป็นปัจจัยที่สร้างผลกระทบหลักต่อตลาดตราสารทุนในช่วง 18 เดือนข้างหน้า ถือเป็นอัตราส่วนที่มากกว่ากลุ่มอเมริกาเหนือและยุโรป อีกทั้งยังมีความกังวลเรื่องความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ ขณะที่ฝั่งยุโรปห่วงเรื่องสงครามในยูเครน ทางด้านอเมริกาเหนือกังวลมากที่สุดกับเรื่องคนร้ายที่โจมตีทางไซเบอร์ต่อภาครัฐและเอกชน
- นักลงทุนฝั่งยุโรปห่วงเรื่องพลังงานมากกว่าที่อื่น: นักลงทุนในยุโรปมีความกังวลใจเรื่องต้นทุนและความพร้อมด้านพลังงานเป็นอย่างมาก โดยคิดเป็น 70% ของนักลงทุนทั้งหมด ขณะที่นักลงทุนในเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาเหนือที่มองเรื่องนี้เป็นปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์มหภาคซึ่งอาจจะส่งผลอย่างมากต่อตลาดตราสารทุน มีเพียง 6% และ 3% ตามลำดับเท่านั้น ความกังวลเหล่านี้เป็นผลจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามยูเครนที่กระทบต่อการเข้าถึงก๊าซธรรมชาติและไฮโดรคาร์บอนทั่วทั้งทวีป
- อเมริกาเหนือชื่นชอบสมาร์ตเบตา (smart beta) มากที่สุด: นักลงทุนในอเมริกาเหนือแสดงความชื่นชอบมากที่สุดต่อกลยุทธ์สมาร์ตเบตา (smart beta) ที่ใช้ปัจจัยเชิงปริมาณที่โปร่งใสและเป็นที่ทราบดีอยู่แล้ว โดยราว 74% เลือกให้เป็น 1 ใน 2 กลุ่มกลยุทธ์ที่น่าจะให้ผลตอบแทนในการจัดสรรตราสารทุนได้มากที่สุดในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่นักลงทุนในยุโรปและเอเชียแปซิฟิกมองในลักษณะดังกล่าวที่ราว 70% และ 60% ตามลำดับ
“งานวิจัยที่เราร่วมมือกับ EquitiesFirst เปิดเผยมุมมองของผู้ลงทุนสถาบันที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ” แซม นอกซ์ กรรมการผู้จัดการฝ่าย Custom Research Lab ของ Institutional Investor กล่าว “นักลงทุนประเมินปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างแตกต่างกันไปตามภูมิภาค อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเป็นตลาดใดก็ตาม นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะใช้กลยุทธ์เชิงรุกในตลาดเกิดใหม่ที่ขาดประสิทธิภาพและมีมูลค่าต่ำ ขณะที่ใช้กลยุทธ์สมาร์ตเบตาในตลาดพัฒนาแล้วที่มีประสิทธิภาพและมีสภาพคล่องสูง
“ความคิดหนึ่งที่คล้ายกันทั้งในเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ก็คือ การกระจายความเสี่ยงในระดับโลก ด้วยข้อมูลเชิงลึก ในรายงานชุดนี้ เราเชื่อว่านักลงทุนจะสามารถประเมินโอกาสและความเสี่ยงที่ต่างกันในภูมิภาคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อมีการตัดสินใจได้แล้ว สินเชื่อแบบมีตราสารทุนค้ำประกันจะช่วยมอบเงินทุนที่มั่นคง ต้นทุนต่ำ และมีความยืดหยุ่น เพื่อปรับสถานะและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน” กอร์ดอน ครอสบี-วอล์ช ประธานกรรมการบริหาร เอเชีย EquitiesFirst กล่าว
“นักลงทุนในออสเตรเลียและที่อื่นๆ ยังคงกังวลกับทิศทางและสถานการณ์ด้านนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดนำโดยสหรัฐฯ และประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ โดยสภาพคล่องกำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง ประกอบกับความไม่แน่นอนทั้งในด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ ในช่วงเวลาแบบนี้ เรายังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าจำนวนมาก ให้สามารถบริหารเงินทุนได้ตามต้องการในขณะที่มูลค่าพอร์ตการลงทุนกำลังเปลี่ยนไป” มิตเชลล์ ฮอปวูด ประธานกรรมการบริหาร ออสเตรเลีย EquitiesFirst กล่าว
“การคาดการณ์ในวงกว้างต่อความผันผวนที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในยุโรปแต่รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งสินเชื่อแบบมีตราสารทุนค้ำประกันจะช่วยมอบเครื่องมือที่มีศักยภาพแก่นักลงทุน ให้สามารถเปลี่ยนการครอบครองหุ้นในระยะยาวให้เป็นเงินทุน หมดปัญหาเรื่องการประเมินมูลค่าหุ้น เรียกว่าเป็นการให้เงินทุนที่ยืดหยุ่นและมีต้นทุนต่ำ เพื่อให้นักลงทุนไขว่คว้าโอกาสใหม่ๆ ได้พร้อมกับการรอจังหวะให้หุ้นในมือมีราคาเพิ่มขึ้น” เจมส์ มองโอแวน ประธานกรรมการบริหาร ยุโรป EquitiesFirst กล่าว
รายงานระดับภูมิภาคสำหรับเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และอเมริกาเหนือ พร้อมให้อ่านแล้วทางเว็บไซต์ EquitiesFirst