/ BEYOND ส่งซิก 4Q23 สดใส ผลงาน 9M23 ท็อปฟอร์ม กำไรสุทธิ 161 ลบ. มั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวด์ ทะลุเป้า 2,800 ลบ.
นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ผู้ประกอบธุรกิจลงทุน พัฒนา และดำเนินธุรกิจโรงแรมและบริการระดับ Ultra-Luxury แถวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเติบโตดีต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยภาพรวม 10 เดือนแรกของปี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้วจำนวน 22 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 250% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย มาเลเซีย, จีน, เกาหลีใต้, อินเดีย และรัสเซีย มั่นใจภาพรวมอุตสาหกรรมฯ ช่วงโค้งสุดท้ายของปีสดใส รับช่วงไฮซีชั่น และผลจากมาตรการฟรีวีซ่าของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนผลงานงวดไตรมาส 4/2566 ของบริษัทฯ เติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง
หลังจาก 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ สามารถทำผลงานท็อปฟอร์ม มีกำไรสุทธิจำนวน 161 ล้านบาท เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ขาดทุนอยู่ราว 431 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจโรงแรมเติบโตก้าวกระโดดกว่า 60% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 2,095 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7% โดยเป็นรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ
โดยงวดไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 28% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ราว 690 ล้านบาท ตามการเติบโตที่โดดเด่นของรายได้จากธุรกิจโรงแรมจำนวน 673 ล้านบาท โดยรายได้ห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนราว 45% ขณะที่รายได้จากอาหารและเครื่องดื่มจากงานจัดเลี้ยงเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งการเติบโตของทั้งรายได้ห้องพักและอาหารและเครื่องดื่มมาจากศักยภาพการแข่งขันของโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ที่โดดเด่นในกลุ่มโรงแรมระดับ Ultra-Luxury
นางกมลวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผลงานทั้งปี 2566 เทิร์นอะราวด์ต่อเนื่อง รายได้ธุรกิจโรงแรมจะเติบโตทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 2,800 ล้านบาท ตามการเติบโตที่ดีของภาพรวมอุตสาหกรรมฯ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยปี 2566 ไว้ที่ 25-28 ล้านคน สร้างรายได้รวมให้กับประเทศกว่า 2.2 ล้านล้านบาท รวมถึงการบริโภคของตลาดในประเทศที่ยังเติบโตโดยเฉพาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และอีกโฟกัสสำคัญของบริษัทฯ คือการเร่งเดินหน้าผลักดันอัตราการทำกำไร รวมถึงพัฒนายกระดับศักยภาพโรงแรมทั้ง 2 แห่ง มุ่งเน้นส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างเหนือความคาดหมาย ภายใต้วิสัยทัศน์ “Inspiring new ways to experience the world” หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการสัมผัสโลกในมิติใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การได้รับรางวัลชั้นนำระดับโลกมากมายอย่างต่อเนื่องยังเป็นการการันตีคุณภาพของสินทรัพย์และการบริการระดับพรีเมี่ยมโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ซึ่งทำให้บริษัทมั่นใจในจุดแข็งทางการแข่งขัน และตอกย้ำการเป็นผู้นำกลุ่มโรงแรมระดับ Ultra-Luxury รองรับการเดินทางมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยตัวอย่างรางวัลที่เพิ่งได้รับการประกาศล่าสุด ได้แก่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดอันดับ 3 ของโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก และถือเป็นอันดับ 1 ในเอเชียและประเทศไทย จาก The World’s 50 Best Hotels 2023 ขณะที่บาร์ของโรงแรมอย่าง BKK Social Club ติดอันดับ 13 บาร์ที่ดีที่สุดของโลก ขยับขึ้นจากอันดับที่ 14 ในปีที่ผ่านมา และเป็นบาร์อันดับ 1 ของเอเชีย จากการจัดอันดับของ The World’s 50 Best Bars 2023 ขณะที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ติดอันดับ 11 ของโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก เช่นเดียวกัน พร้อมรางวัล Best New Hotel Award จาก The World’s 50 Best Hotels 2023
ทั้งนี้ จากผลงานที่โดดเด่นภายใต้การกำกับกิจการที่ดี ส่งผลให้ล่าสุด บริษัทฯคว้ารางวัล CGR (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2023) ระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีเยี่ยมต่อเนื่อง ภายใต้การเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส คำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน